เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในทุกธุรกิจได้แก่ คน เพราะคนคือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง  ธุรกิจสตาร์ทอัพสายเลือดชายแดนใต้เจ้าหนึ่งซึ่งกำลังเติบโตและมาแรง อย่าง Pinsouq เป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี จากการเริ่มต้นเล็กๆ ในปี พ.ศ.2559 โดย ชารีฟ เด่นสุมิตร หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ซึ่งคนพื้นเพจังหวัดยะลา ได้มีโอกาสมาเรียนที่ปัตตานี โดยจบปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต่อมาได้เรียนต่อปริญญาโท ด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริหารธุรกิจที่ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า พร้อมกัน เมื่อเรียนจบเขาเกิดความคิดว่าบ้านตัวเองทำไมคนเก่งๆ ไม่กลับมาทำงานพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนของตนเอง จึงอยากนำองค์ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา กลับมาใช้ประโยชน์เพื่อท้องถิ่น

ช่องว่างความต้องการตลาดเพียวฮาลาล

      ชารีพได้รับแรงบันดาลใจจากการเห็นโพสต์หาสินค้าฮาลาลบนเฟซบุค เช่น สินค้าตัวนี้ซื้อมาจากไหน ราคาเท่าไหร่ โดยพบคำถามแบบนี้บ่อยๆ และพบว่ามีกรุ๊ปขายของฮาลาลที่ต้องเสียเงินรายเดือนเพื่อโพสต์ขาย ทั้งๆ ที่มีแพลทฟอร์มตลาดออนไลน์ชั้นนำอยู่ แต่เมื่อไปค้นหาสินค้าฮาลาลในตลาดดังกล่าวก็พบน้อยมาก ในด้านของผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เอง ถึงมีจะมีกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากมาย แต่ไม่ได้รับความสะดวกในการสั่งสินค้าออนไลน์จากแพลตฟอร์มเหล่านี้ เนื่องจากการส่งของไปยังพื้นที่ชายแดนใต้จะถูกเพิ่มค่าบริการ Remote Area ทำให้สินค้าราคาแพงขึ้นอีก สิ่งที่ชารีฟค้นพบ และเข้าใจได้คือ สิ่งที่แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ชั้นนำทุกเจ้าไม่มี คือความเป็นเพียวฮาลาล ทั้งๆ ที่เมื่อศึกษาตลาดสินค้าฮาลาล ซึ่งพบตลาดสินค้าฮาลาลของไทยมีขนาดใหญ่ มีการส่งออกติดอันดับ 10 ของโลก

      ชารีฟจึงเห็นดีมานด์ และซัพพลายของตลาดฮาลาล และมีความตั้งใจในการริเริ่มธุรกิจนี้ขึ้น โดยเน้นสร้างตลาดออนไลน์ที่มีความเป็นตลาดสินค้าฮาลาลล้วนๆ ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจในผู้บริโภคชาวมุสลิม ด้วยความรู้ที่เรียนมาโดยตรงทำให้สามารถพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ และนำสิ่งที่ได้เรียนเป็นการบ้านในการทำธุรกิจได้ทุกวัน และพัฒนาได้ต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากการทำแอพพลิเคชั่น Pinsouq ซื้อขายสินค้าฮาลาล โดยคิดค่าคอมมิสชั่นจากผู้ขายเป็นค่าบริหารจัดการระบบ และร้านค้าใดที่อยากจะให้กระจายสินค้าในตลาดออฟไลน์ก็สามารถทำได้ จึงมีช่องทางการขายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ โดยร้านค้าแค่ส่งของมาไว้ที่โกดังของบริษัท ๆ ก็จะนำสินค้าไปกระจายยังสินค้าขายปลีกในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสตูล จุดเริ่มที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

      ธุรกิจ Pinsouq มีผู้ร่วมก่อตั้ง 7 คน ด้วยความเป็นหน้าใหม่ และเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่เริ่มต้นด้วยทุนของผู้ก่อตั้งเอง ทำให้ประสบปัญหาไม่ได้รับความสนใจจากธุรกิจที่เป็นซัพพลายเออร์ที่ชักชวนมาเปิดร้านค้าออนไลน์ เมื่อยังมีร้านค้าไม่มากผู้บริโภคที่เข้ามาก็หมดความสนใจ ชารีฟแก้ไขปัญหานี้โดย เริ่มจากเสนอบริการให้ธุรกิจระดับกลางที่อยากมีแพลตฟอร์มการขายออนไลน์เป็นของตัวเอง บริษัทลงมือทำให้โดยได้เป็นค่าคอมมิสชั่นจากยอดขายสินค้า จนกระทั่ง แต่ละแบรนด์มีลูกค้าของตัวเอง เมื่อมีหลายๆ แบรนด์ จึงรวบรวมมาเป็น Marketplace เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้ แต่ละแบรนด์โดยคิดค่าคอมมิสชั่นเท่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการง่ายในการจูงใจร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มจนกลายเป็น Marketplace ที่ใหญ่ขึ้น และมีร้านค้าต่างๆ มาลงเองโดยไม่ต้องไปชักชวน       เมื่อทำธุรกิจตลาดสินค้าฮาลาลออนไลน์ได้สองปี มีผลกำไรจากการประกอบการ จึงได้ขยับมาแก้ปัญหาด้านโลจิสติกสำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยเพิ่มช่องทางการขายออฟไลน์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยทำโกดังของบริษัทเอง และทำการกระจายไปยังร้านค้าที่เป็นพาร์ทเนอร์ในพื้นที่ ชารีฟและเพื่อนผู้ก่อตั้ง โดยใช้ทุนจากผลประกอบการในการทำธุรกิจออนไลน์ ในสองปีแรก เริ่มต้นในช่วงเดือนรอมฎอนปี 2560 ที่กำลังซื้ออาหารฮาลาลกำลังพุ่งสูง ทำให้การลงทุนได้ทุนคืนภายใน 1 สัปดาห์ โดยนำอาหารแช่แข็งฮาลาลมาจำหน่ายหมดภายใน 24 ชั่วโมงทุกวัน มีร้านค้ามารับถึงโกดังทุกวัน

      การเติบโตนี้ทำให้สามารถมีทุนในการซื้อตู้แช่เย็นกระจายไว้ในโกดัง 5 จังหวัด โดยจุดกระจายสินค้าก็มีที่มาจากการพิจารณาร้านค้าพาร์ทเนอร์ใน แต่ละพื้นที่ ร้านไหนขายดีมากก็จะใช้ร้านนั้นเป็นศูนย์กระจายสินค้า โดยมีการควบคุมราคาสินค้าในพื้นที่เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้ซัพพลายเออร์ และยกระดับร้านโชว์ห่วยในพื้นที่ให้มีสินค้าคุณภาพที่ร้านสะดวกซื้อไม่มีขาย และส่งผลให้มีโรงงานก็มีติดต่อเข้ามามากขึ้นเพื่อให้ช่วยกระจายสินค้าในจังหวัดชายแดนใต้ ทาง Pinsouq จึงเริ่มทำเป็นหน้าร้านควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์กระจายสินค้าในเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา

ธุรกิจสตาร์ทอัพในพื้นที่ชายแดนใต้ มีวิกฤติย่อมมีโอกาส

      จากประสบการณ์ความสำเร็จในระดับหนึ่ง และความตั้งใจที่อยากจะเห็นบ้านเกิดมีเศรษฐกิจที่ดีซึ่งย่อมจะนำไปสู่ความสุขของคนในพื้นที่ ชารีฟจึงมีความตั้งใจในการนำเอาอาธุรกิจ Pinsouq เป็น role model ให้คนในจังหวัดชายแดนใต้หันมาทำสตาร์ทอัพในบ้านเกิดของตัวเอง โดยเริ่มจัดเวิร์กช็อปในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เพื่อช่วยให้มีเกิดสตาร์ทอัพน้องใหม่เกิดขึ้น ซึ่งมีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน คือ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA นอกจากนี้ ชารีฟได้เข้าร่วมเป็น 1ใน12 Star tech ที่ส่งเสริมโดย สำนักงานส่งเสริมธุรกิจดิจิทัล หรือ DEPA ทำให้ได้ขยายกรอบความคิด จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เข้าร่วมทุกคน ทำให้ต่อยอดความคิดทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะทำ Pinsouq ให้เป็นธุรกิจระดับสากลต่อไปในอนาคต