วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ.2567

แนวทางสันติวิธีเป็นสิ่งที่เราต้องร่วมมือกัน โต๊ะอิหม่ามคอเต็บต้องร่วมช่วยกันกับทุกภาคส่วน แก้ไขปัญหาในลักษณะประชารัฐ นายกฯ พบปะผู้นำศาสนาอิสลาม และชาวไทยมุสลิม จ.นราธิวาส

 21 ม.ค. 2563 08:47 น.    เข้าชม 1715

          ( 20 มกราคม 2563 เวลา 16.00 น.) ที่ หอประชุมบรมราชกุมารี สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางลงพื้นที่พบปะผู้นำศาสนาอิสลามและประชาชนชาวไทยมุสลิม ในโอกาสเดินทางไปตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2563 ระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2563 โดยมี พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส,รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, หัวหน้าส่วนราชการ, หน่วยงานราชการในพื้นที่ ตลอดจนผู้นำศาสนา, กลุ่มสตรี และประชาชนร่วมให้การต้อนรับ โดย นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ในนามตัวแทนผู้นำศาสนาได้กล่าวต้อนรับ และกล่าวดุอาร์อำนวยพรเป็นการต้อนรับคณะ

          พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กลาวว่า วันนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันในประเทศไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดเชื้อชาติใด เราทุกคนคือสัญชาติไทยอยู่ในดินแดนของประเทศไทย ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี สังเราเราอยู่ร่วมกันแบบพหุสังคมและพหุวัฒนธรรม ทุกอย่างอยู่ได้ดีร่วมกันจนถึงปัจจุบันนี้ จากที่ได้ไปพบปะประชาชนมาหลายที่ สิ่งที่ได้พบคือความน่ารักประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดนราธิวาส และวันนี้ได้รับคำอวยพรจากประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส รู้สึกยินดี และพรใดก็ตามที่ให้ขอให้พรนั้นกลับไปยังทุกท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้และท่านที่อยู่ข้างนอกรวมถึงชาวนราธิวาสทุกคนเพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกันย่อมอยากให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุข รัฐบาลเองก็มีความมุ่งหมายเช่นเดียวกัน ปัญหาของบ้านเมืองเราซับซ้อนและมีมายาวนานจะต้องแก้ไขด้วยวิธีที่ไม่เกิดความขัดแย้ง จึงได้มีการกำหนดแผนปฏิรูป กำหนดยุทธศาสตร์ชาติขึ้นมาในการแก้ไขปัญหา มีแนวทางสันติวิธีเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องร่วมมือกัน โต๊ะอิหม่าม คอเต็บ ต้องร่วมช่วยกันกับทุกภาคส่วน ในการจะช่วยแก้ไขปัญหาเป็นการแก้ปัญหาในลักษณะประชารัฐ คือมีทั้งภาครัฐภาคเอกชนภาคประชาชนภาคประชาสังคมทั้งหมดต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ซึ่งวันนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับ โดยปัญหาแรกคือเรื่องของความไม่สงบความอันตรายลดลงไปมากด้วยฝีมือพวกเรา ไม่ใช่ฝีมือคนคนเดียว หรือข้าราชการ แต่เป็นเพราะประชาชนร่วมมือกันก็แก้ได้ เมื่อทุกอย่างสงบขึ้นดีขึ้นความมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่วนต่างๆก็ทำงานได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยดี

          5ปี ที่ผ่านมาของรัฐบาล ปีนี้เข้าปีที่ 6 หลายอย่างได้เดินหน้ามาตามแผนงาน เช่นเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างไรการแก้ปัญหาเรื่องอาชีพรายได้ เรื่องเกษตร ทั้งนี้ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองบ้างซึ่งเราอาจไม่ทันต่อสภาพแวดล้อมของโลกในปัจจุบันซึ่งเป็นโลกไร้พรมแดน เป็นโลกแห่งเทคโนโลยี โซเชียล ดิจิตอลกำลังเข้ามาถ้ายังยึดติดแบบเดิมๆจะเดินหน้าไปไม่ได้ นี้คือที่รัฐบาลเป็นห่วง ฉะนั้นต้องเรียนรู้เข้าใจการทำงานของรัฐ และรัฐเองเข้าใจในลัตลักษณ์ประเพณี ซึ่งทั้งหมดต้องเดินไปคู่ขนานกัน และสิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงอย่างแรกคือความมั่นคง ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันต่อไป อย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบและวุ่นวาย ทุกอย่างมีบทเรียนมาหมดแล้ว อะไรไม่ดีอย่าให้เกิดขึ้นเลยโดยเฉพาะประเทศไทย เราไม่มีความขัดแย้งกับใครเลยในวันนี้ได้รับการตอบรับจาก ทุกประเทศทั้งหมดที่มีความสัมพันธ์ที่ดี หลายประเทศเชิญไปเยี่ยมเยือนก็ต้องหาเวลาที่เหมาะสม สิ่งที่เราทำวันนี้คือสร้างความรักความสามัคคีให้เขาเชื่อมั่นว่าประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข

          นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ถูกต้อง เพราะแท้จริงแล้วบางเรื่อง ไม่ได้เป็นอย่างที่บางคนนำไปพูดจาให้ร้ายกัน ยิ่งสื่อความหมายออกไปผิดๆยิ่งทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น และปัญหาอีกอย่างคือปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ใช้ความรุนแรงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ข้าราชการที่ยุ่งเกี่ยวขอให้แจ้งมาถ้ามีหลักฐานจะปลดออกให้ติดคุก และสำหรับคนที่แจ้งไม่ต้องกลัวจะปกปิดข้อมูลให้ขอให้แจ้งมาจะทำอย่างไรที่จะให้สังคมเราไม่มียาเสพติด ขอความร่วมมือช่วยกันสอดส่องปกป้องพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เพราะนั้นคือความมั่นคั่ง มั่นคง และยั่งยืนของทุกคน รวมถึงเรื่องการศึกษาเรียนรู้ศาสนาและสายสามัญต้องเรียนรู้ควบคู่กันเพื่อจะได้ไปสอบเป็นผู้นำต่อไป

ความคิดเห็น