วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2567

นายกรัฐมนตรี เผยเชื่อแผนพัฒนาภาคใต้ภาพรวมจะนำไปสู่การแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ได้

 22 ม.ค. 2563 12:50 น.    เข้าชม 822

          เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ที่ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ. นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดนและการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2563 จ.นราธิวาส ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีการพิจารณาเรื่องการพัฒนา และเรื่องความมั่นคง โดย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จังหวัดนราธิวาส ที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ภาคธุรกิจภาคเอกชน หอการค้า ภาคการเกษตรได้เข้ามาหารือร่วมกัน เพื่อร่วมกันกำหนดแผนการขับเคลื่อนต่างๆ ในอนาคต ขณะแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้ บางเรื่องต้องมีการศึกษาใหม่ บางอย่างสามารถนำเข้าสู่แผนปฎิบัติได้ บางโครงการต้องเสนองบประมาณ เข้าสู่แผนปี 2564 บางอย่างมีอยู่ในแผนอยู่แล้ว ซึ่งภาพรวมเหล่านี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้ ซึ่งจะเป็นแนวทางนำไปสู่การลดความรุนแรงในพื้นที่ได้ โดยใช้แนวทางการพัฒนานำการทหาร ซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการเรื่องความเข้มงวดในมาตรการเชิงพื้นที่ และการระมัดระวังและป้องกันในเขตเมืองให้มากขึ้น ส่วนข้อเสนอขอเพิ่มพื้นที่การปลูกปาล์ม ในเรื่องนี้ รับไว้พิจารณาและให้ไปคำนึงว่าปลูกปาล์มแล้วจะต้องมีปริมาณตามความต้องการของตลาด ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ 3 เรื่อง ประกอบด้วย เขตเศรษฐกิจพิเศษ การจัดสรรที่ดินทำกิน 1,855 ไร่ และสภาสันติสุขตำบลเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดโครงการพัฒนา

          โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น ขยายผลเมืองต้นแบบ ตามนโยบาย “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคัง ยั่งยืน” ซึ่งรัฐบาลเห็นชอบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นเมืองต้นแบบที่ 4 “เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” เนื่องจากในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ยังไม่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับแรงงานในพื้นที่ที่มีอยู่มาก และเป็นพื้นที่ทีมีความพร้อมด้านกายภาพ เป็นพื้นที่ชายฝั่ง จึงมีความเหมาะสมที่จะดำเนินการท่าเรือน้ำลึก เพื่อให้นิคมอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นสามารถใช้ประโยชน์จากการนำเข้าและส่งออกสินค้าได้อย่างสะดวก

          ครม.ยังอนุมัติในหลักการของแผนเร่งด่วนการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อำเภอจะนะ ประกอบด้วย ด้านผังเมือง ด้านโครงข่ายการขนส่งทางบก ด้านพลังงาน ซึ่งภาพรวมโครงการ จะมีเนื้อที่ 16,753 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 18,680 ล้านบาท โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 1 แสนอัตรา

          ครม.ยังเห็นชอบแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส ซึ่งเป็นแผนบริหารจัดการที่ดินสำหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส ให้ ศอ.บต.เป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดซื้อที่ดินเอกชน (บริษัทสวนยางไทย) จำนวน 1,683 ไร่ ในพื้นที่อำเภอยี่งอและอำเภอเมืองนราธิวาส ในกรอบวงเงิน 390 ล้านบาท การบริหารจัดการที่ดิน แบ่งเป็น สามส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเช่า จำนวน 600 ไร่ ในพื้นที่ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ตามอำนาจหน้าที่ของการนิคมแห่งประเทศไทย ส่วนที่ 2 ให้เอกชนเช่า เนื้อที่รวม 1,003 ไร่ โดยกรมธนารักษ์เปิดประมูลเพื่อสรรหาผู้ลงทุนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด และส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์ของทางราชการในพื้นที่ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ พื้นที่รวม 79 ไร่ เช่น สร้างศูนย์อบรมพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมและการลงทุนและการพัฒนาและส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ยุค 4.0

ความคิดเห็น