วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2567

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีสร้างข่าวบิดเบือน

 24 ส.ค. 2562 09:38 น.    เข้าชม 1514

          จากกรณีมีผู้ โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัว และ เว็บเพจข่าวความจริงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้ชื่อ พรเพ็ญ คงจรเกียรติ ข้อความว่า “เหตุใดวันที่นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ถูกจับกุมนำมาสอบสวนที่ ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร แล้วหมดสติขาดอากาศหายใจ จนสมองบวม จนถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลปัตตานี การสอบสวนในคืนนั้น เหตุใดนายอับดุลฮากิม ดาราเซะ จึงเข้ามาร่วมสอบสวนในครั้งนี้ด้วย” จากการโพสต์ข้อความดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข่าวสาร กล่าวหาหน่วยงาน โดยไม่มีเหตุผล และปราศจากข้อเท็จจริง ทำให้ได้รับความเสียหายและเกิดการเข้าใจผิดจากผู้ที่ติดตามข่าวสาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

          1. กรณี นายอับดุลเลาะ อีซอมุซอ ถูกควบคุมตัว ตามอำนาจกฎอัยการศึก นำส่งศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 43 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 ระหว่างถูกควบคุมตัว ได้พบว่าหมดสติ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่ง แม่ทัพภาค 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยได้มอบหมายให้ คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจากการสอบสวนในขั้นต้น แพทย์ได้ยืนยันว่า นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ มีอาการสมองบวม จากการขาดอากาศหายใจ จากการตรวจร่างกายไม่พบบาดแผลและรอยฟกช้ำใดๆ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ชุดดังกล่าว ยังคงดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

          2. กรณี นายอับดุลฮากิม ดาราเซะ ที่ ผู้โพสต์กล่าวอ้างว่าเข้าไปร่วมสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 43 นั้น ข้อเท็จจริง นายอับดุลฮากิม ดาราเซะ ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวตามหมาย ป.วิอาญา ศาลจังหวัดยะลา ที่ 201/2562 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2562 จากการตรวจสอบยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำยะลา รออัยการสั่งฟ้องต่อไป ดังนั้น ในห้วง 20 - 21 กรกฎาคม 2562 นายอับดุลฮากิม ดาราเซะ ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำยะลา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปร่วมสอบสวน นายอับดุลเลาะ อีซอมุซอ ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตามที่กล่าวอ้าง การเขียนข้อความ เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ของ ผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค ดังกล่าวจึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง จงใจที่จะทำให้ผู้บริโภคข่าวสารเข้าใจผิด โดยที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเสียหายกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรม นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ที่จงใจเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่สร้างความเสียหายให้กับภาครัฐและ สร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนพร้อมกับขอให้พี่น้องประชาชนบริโภคข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อและเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีดังกล่าวอีกต่อไป

ความคิดเห็น