วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ.2567

ตรวจสอบทุกขั้นตอน ด้วยความ "โปร่งใส" และพร้อมให้ความเป็น "ธรรม" และ "ช่วยเหลือ" ญาติ ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่

 18 ธ.ค. 2562 17:00 น.    เข้าชม 948

          แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุยิงราษฎรเสียชีวิต 3 ราย บนเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

          วันนี้ 17 ธันวาคม 2562 เวลา 16.00 น. ที่โรงเรียนชุมชนสหพัฒนา ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลโท สมพล ปานกุล รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พลตรี เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สำคัญผิดคิดว่าชาวบ้านลอบตัดไม้เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บนเทือกเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดบนเขาตะเว ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำ ดำเนินการตรวจสอบทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใสและพร้อมให้ความเป็น "ธรรม" และ "ช่วยเหลือ" ครอบครัวอย่างเต็มที่ พร้อมขอให้ประชาชนได้ยึด ประกาศความมั่นคงห้ามขึ้นภูเขาที่เป็นเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทุกกรณี เพื่อลดความเสี่ยง

          พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ในนามของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ที่เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยขอยืนยันว่าจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ด้วยความโปร่งใส และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ แม้เบื้องต้นพบว่าเป็นการสำคัญผิดของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามหากภายหลังพบว่าเจ้าหน้าที่กระทำความผิดด้วยความจงใจ จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาทหารขั้นสูงสุดโดยไม่มีข้อยกเว้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นการขยายผลจากเหตุปะทะกับกลุ่มคนร้ายเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ในพื้นที่ หมู่ 13 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส แต่คนร้ายได้หลบหนีไปได้ และจากภาพข่าวความเคลื่อนไหวของคนร้ายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จึงได้จัดกำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เคยปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เจอกับกลุ่มบุลคลไม่ทราบฝ่ายประมาณ 4 – 5 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เพื่อตรวจสอบแต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีพร้อมกับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 – 4 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยิงตอบโต้และเมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนที่เหลือได้หลบหนี

          ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดแผนเข้ากดดันบังคับใช้กฎหมายกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ป่าภูเขาทุกพื้นที่ พร้อมได้ออกคำสั่งห้ามราษฎรขึ้นไปหาของป่า หรือกระทำสิ่งอื่นใดในพื้นที่ป่าภูเขา ทั้งนี้ได้แจ้งผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เทือกเขาเมาะแต และเทือกเขาตะเว ถือเป็นพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาดเพราะเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ได้เคยปะทะกับกลุ่มคนร้ายมาแล้วหลายครั้ง โดยที่ผ่านมาสามารถตรวจยึดฐานที่มั่นบนพื้นที่เขาตะเวและเขาเมาะแตได้ถึง 8 ฐาน

          อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นราษฎรในหมู่บ้านไม่ใช่ผู้ก่อเหตุรุนแรง ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง แต่ได้สำคัญผิดว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ปรากฏภาพข่าวความเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าวก็ตาม แต่เมื่อเกิดความสูญเสียขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ โดยจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนของหน่วยเพื่อดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางวินัย และทางอาญาขั้นเด็ดขาด โดยไม่มีข้อละเว้น นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระจากผู้แทนของทุกภาคส่วนที่ได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานอย่างเป็นอิสระด้วยความโปร่งใส เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้เหมาะสมและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ความคิดเห็น