วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2567

ศอ.บต. เปิดให้ประชาชนไร้สัญชาติ ในพื้นที่ 5 จชต. เข้ารับการตรวจ DNA เพื่อแสดงการมีตัวตนรับรองสถานะทางทะเบียนราษฎร์ขอเป็นพลเมืองไทยอย่างสมบูรณ์

 29 ก.พ. 2563 19:01 น.    เข้าชม 875

          วันนี้ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ชั้น 1 อาคารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานเปิดกิจกรรมการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2560 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีประชาชนจากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 382 คน ยื่นขอตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เพื่อรับรองสถานะทางทะเบียนราษฎร์ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา และจังหวัดนราธิวาส ผู้ตรวจราชการกรมการปกครองเขต 7 และผู้แทนจากผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

          พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริ หารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าว่า รัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับและมอบแนวทางในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หนึ่งในแนวทางแก้ปัญหาที่สำคัญคือผู้ที่ไร้สถานะทางทะเบียนราษฏร์ ไม่ได้แจ้งเกิดไม่มีหลักฐานระบุว่าเป็นพลเมืองของชาติไทย โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นหลายๆหน่วยงาน ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์คณะแพทย์ร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยการตรวจสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ เพื่อเทียบและสืบค้นทางพันธุกรรมสำหรับผู้ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฏร์ ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2560

          ทั้งนี้ประชาชนที่มาร่วมแจ้งสถานะทางทะเบียนราษฏร์ในครั้งนี้มาจาก 5 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ โดยส่วนใหญ่เกิดในประเทศไทย หากแต่บางรายประสบกับปัญหาของครอบครัว รวมถึงปัญหาความยากจน ทำให้ไม่มีโอกาสได้ไปแจ้งเกิดรวมถึงความเชื่อส่วนบุคคลต่างๆ ส่งผลให้บุคคลเหล่านี้ไม่ได้ไปแจ้งเกิด ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฏร์ ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน และการตรวจสารพันธุกรรมในครั้งนี้ทำให้ประชาชนเป็นพลเมืองไทยโดยสมบูรณ์ สำหรับสถิติของประชาชนที่ยื่นขอแจ้งสถานะทางทะเบียน 2 ปีที่ผ่านมาจำนวน 1,100 คน รวมกับยอดในครั้งนี้ 382 คน มียอดโดยรวมประมาณ 1,500 กว่าคน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับบุคคลเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือ เป็นการมอบความเป็นมนุษย์ให้กับประชาชนเหล่านี้ มีตัวตนเปรียบเสมือนมีชีวิตใหม่ และเป็นพลเมืองไทยโดยสมบูรณ์

ความคิดเห็น